วีซ่าอเมริกา I ขอวีซ่าอเมริกา I สถานทูตอเมริกา
|
วีซ่าธุรกิจและท่องเที่ยว (B1/B2) |
วีซ่า ชั่วคราวสำหรับผู้ที่ ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯ ชั่วคราว เพื่อธุรกิจ (B-1) หรือเพื่อท่องเที่ยว (B-2) วีซ่า ชนิด B-1/B-2 สามารถใช้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัว เดินทางเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ หรือเข้าร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจระยะสั้น เช่น การประชุม สัมมนา และวีซ่าชนิด B-1ยังเป็น วีซ่าสำหรับผู้สมัครที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯ ในฐานะผู้ช่วยภายในบ้าน วีซ่าธุรกิจและท่องเที่ยว (B1/B2) ผู้สมัครจะได้รับจากสถานทูตอาจสูงสุดถึง 10 ปี ตามดุลพินิจสถานทูตฯ แต่การจะสามรถพำนักในประเทศสหรัฐฯนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ตม.อนุญาต สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน การที่ผู้สมัครจะมีคุณสมบัติครบถ้วน ในการสมัครวีซ่านี้ ต้องตรวจสอบสถานะภาพตัวเองว่ามีความสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่ |
หลักสำคัญในการสมัครวีซ่า |
ประเด็น
สำคัญในการสมัครวีซ่าธุรกิจและท่อง เที่ยว (B1/B2) ต้องให้ความสำคัญใน
3ส่วน คือ ใบสมัครและเอกสาร บุคคลิก และสุดท้ายคือ
การตอบคำถามในการสัมภาษณ์
|
Our Service |
|
|
วีซ่าคู่หมั้น (K1/K2) |
สำหรับ
พลเมือง (US.Citizen) หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด ชาวอเมริกัน
มีความประสงค์ต้องการให้ญาติหรือคู่สมรส เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐฯ
อย่างถาวร ในกรณีคู่สมรสต้องพลเมือง หรือผู้ถือกรีนการ์ด
จะต้องพบกับคู่สมรส (Meet in person) ในระยะเวลาสองปีก่อนสมัครวีซ่า
โดยนับวันที่พบกันครั้งแรก ถือเป็นวันที่ 1 จนครบสองปี จึงจะยื่นสมัครได้
แต่กรณีไม่ครบสองปี
สามารถยื่นเรื่องสมัครได้แต่ระยะเวลาการสมัครจะมีระยะยาว
เมื่อ คุณได้รับวีซ่าวีซ่าคูหมั้น
คุณเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯแล้ว ต้องดำเนินการจดทะเบียนสมรสภายใน 90 วัน
หลังจากสมรสจะต้องดำเนินเรื่อง Application to Register Permanent
Residence or to Adjust Status โดยกรอกแบบฟอร์ม I-485 ส่งเรื่อง ณ
สำนักงานในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ และจะต้องกรอกแบบฟอร์ม I-864, Affidavit of
Support วีซ่าคูหมั้น K1 ผู้สมัครสามารถนำบุตรธิดาอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ยังไม่สมรส (K2) เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐฯ อย่างถาวรได้ |
หลักสำคัญในการสมัครวีซ่า |
|
Our Service |
|
ขั้นตอนการยื่นสมัคร วีซ่าคู่หมั้น (K1/K2) |
ขั้นตอนที่ 1: วีซ่าคู่หมั้น (การยื่นคำร้อง) |
อันดับ
แรก จะต้องรวบรวมเอกสารที่ต้องการสำหรับการสมัครวีซ่า K-1.
ตรวจสอบเอกสารพลเมือง(US. Citizen)
ว่ามีเอกสารทางการเงินที่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้สนับสนุนที่ดีให้กับคู่
สมรสวีซ่า K-1. รวมถึงเอกสารทุกอย่างที่จำเป็นต่อการยื่นสมัครวีซ่า K-1
ต้องใช้แบบฟอร์ม I-129F สำหรับ คู่สมรส และแบบฟอร์ม G-325A (Biographic
Information) สำหรับพลเมือง (US. Citizen)
และหากมีบุตรธิดาติดตามไปด้วยให้ใช้แบบฟอร์ม I- I-129F.
เอกสารทุกฉบับที่ได้ทำการแปลเรียบร้อย
แล้ว สำหรับผู้สมัครวีซ่า K-1และเอกสารพลเมือง (US. Citizen),
ใบคำร้องขอวีซ่าคู่สมรส K-1 พร้อมกับเช็คค่าธรรมเนียมฯ ส่งไปยังศูนย์ USCIS
แห่งใดก็ได้ ที่ใกล้กับพลเมือง (US. Citizen) ศูนย์ฯบริการ
|
ขั้นตอนที่ 2: วีซ่าคู่หมั้น (USCIS ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา) |
เมื่อ USCIS ได้ส่งหนังสือแจ้งการได้รับใบสมัครฯ ของผู้สมัคร ไปยังพลเมือง (US.Citizen) หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด จากนั้นเขา/เธอก็สามารถที่จะยื่นขอวีซ่าคู่สมรส K-1 ต่อ USCIS ได้ (ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติฯ) ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติฯ จะดำเนินการการสมัครขอวีซ่าคู่หมั้น K-1 ให้กับผู้สมัคร |
ขั้นตอนที่ 3: วีซ่าคู่หมั้น (NVC. ศูนย์บริการดวงตราเข้าเมืองแห่งชาติ) |
เมื่อ USCIS ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติทำการ รับรองคำร้องแล้วและได้รับการพิจารณาแล้ว ใบสมัครฯ นี้จะถูกส่งต่อไปยัง NVC ศูนย์บริการตรวจตราคนเข้าเมืองแห่งชาติ ศูนย์บริการตรวจตราคนเข้าเมืองแห่งชาติ จะดำเนินการ และทำการส่งต่อข้อมูลไปยังสถานฑูตอเมริกา ในกรุงเทพฯ จากนั้นผู้สมัครฯจะได้รับการแจ้งจากทางสถานฑูตอเมริกา สำหรับการรอผลการนัดวันสอบ สัมภาษณ์ท่าน เนื้อหาส่วนอื่นอาจจะมีเพิ่มเติมถ้าหากว่าท่านเคยขอรับดวงตราเข้าเมือง ประเภทอื่นๆ มาก่อน หรือเคยเป็นผู้มีประวัติทางอาชญากรรม ฯลฯ |
ขั้นตอนที่ 4: วีซ่าคู่หมั้น (NVC. ศูนย์บริการดวงตราเข้าเมืองแห่งชาติ) |
หลัง จากที่ได้ทำการนัดหมายและสถานทูตยืนยันวันนัด หมายแล้ว ผู้สมัครฯต้องดำเนินการ กรอกแบบฟอร์ม รวบรวมเอกสาร แปลเอกสารและรับรองฯ ไปตรวจสุขภาพ ขอใบรับรองความประพฤติ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเข้าสัมภาษณ์ตามวัน เวลานัดหมาย เมื่อผู้สมัครฯได้รับการสอบสัมภาษณ์ ณ สถานฑูตอเมริกาแล้ว และได้รับวีซ่า K-1 ท่านจะสามารถเดินทางเพื่อไปทางเข้าประเทศสหรัฐฯ แล้ว ต้องดำเนินการจดทะเบียนสมรสภายใน 90 วัน หลังจากสมรสจะต้องดำเนินเรื่อง Application to Register Permanent Residence or to Adjust Status โดยกรอกแบบฟอร์ม I-485 ส่งเรื่อง ณ สำนักงานในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ และจะต้องกรอกแบบฟอร์ม I-864, Affidavit of Support. |
|
วีซ่าแต่งงาน (K3/K4) |
สำหรับ
พลเมือง (US.Citizen) หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด ชาวอเมริกัน
มีความประสงค์ต้องการให้ ภรรยา/สามี เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐฯ
อย่างถาวร โดยพลเมือง(US.Citizen) หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด
จะต้องจดทะเบียนสมรสกับภรรยา/สามี แล้ว ระยะเวลาการสมัครจะนานกว่า
วีซ่าคู่หมั้น K1.
วีซ่าแต่งงานK-3 และ วีซ่า K-4
มีช่วงสถานะภาพอยู่ได้ 2 ปี
และวีซ่าเป็นประเภทที่เดินทางเข้าออกได้หลายครั้ง (Multiple re-entry)
และสามารถทำงานได้ เมื่อได้เข้าไปยังสหรัฐฯแล้วและได้รับบัตรประกันสังคม
และเอกสารสิทธิในการทำงาน (EAD) เมื่อวีซ่าใกล้ครบ สองปี
คุณสามารถสมัครเป็นผู้ถือกรีนการ์ด ได้ วีซ่าคู่หมั้น K3 ผู้สมัครสามารถนำบุตรธิดาอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ยังไม่สมรส (K4) เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐฯ อย่างถาวรได้ |
หลักสำคัญในการสมัครวีซ่า |
|
Our Service |
|
ขั้นตอนการยื่นสมัคร วีซ่าแต่งงาน (K3/K4) |
ขั้นตอนที่ 1: วีซ่าแต่งงาน (การยื่นคำร้อง) |
อันดับ
แรกจะต้องรวบรวมเอกสารที่ ต้องการสำหรับการสมัครวีซ่า K-3.
ตรวจสอบเอกสารพลเมือง(US. Citizen)
ว่ามีเอกสารทางการเงินที่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้สนับสนุนที่ดีให้กับคู่
สมรสวีซ่า K-1 รวมถึงเอกสารทุกอย่างที่จำเป็นต่อการยื่นสมัครวีซ่าK1.
ต้องใช้.แบบฟอร์ม I-130 สำหรับ ภรรยา/สามี และ แบบฟอร์ม I-129F
สำหรับพลเมือง (US. Citizen) และหากมีบุตรธิดาติดตามไปด้วยให้ใช้แบบฟอร์ม
I-130.
เอกสารทุกฉบับที่ได้ทำการแปล
เรียบร้อยแล้วสำหรับผู้สมัครวีซ่า K-1และเอกสารพลเมือง (US. Citizen),
ใบคำร้องขอวีซ่าคู่สมรส K-1 พร้อมกับเชคค่าธรรมเนียมฯ ส่งไปยังศูนย์ USCIS
แห่งใดก็ได้ ที่ใกล้กับพลเมือง (US. Citizen) ศูนย์ฯบริการ
|
ขั้นตอนที่ 2: วีซ่าแต่งงาน (USCIS ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา) |
เมื่อ USCIS ได้ส่งหนังสือแจ้งการได้รับใบสมัครฯ ของผู้สมัคร ไปยังพลเมือง (US.Citizen) หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด จากนั้นเขา/เธอก็สามารถที่จะยื่นขอวีซ่าคู่สมรส K-1 ต่อ USCIS ได้ (ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติฯ) ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติฯ จะดำเนินการการสมัครขอวีซ่าคู่หมั้น K-1 ให้กับผู้สมัคร |
ขั้นตอนที่ 3: วีซ่าแต่งงาน (NVC. ศูนย์บริการดวงตราเข้าเมืองแห่งชาติ) |
เมื่อ USCIS ศูนย์สิทธิประโยชน์แห่งชาติทำการ รับรองคำร้องแล้วและได้รับการพิจารณาแล้ว ใบสมัครฯ นี้จะถูกส่งต่อไปยัง NVC ศูนย์บริการตรวจตราคนเข้าเมืองแห่งชาติ ศูนย์บริการตรวจตราคนเข้าเมืองแห่งชาติ จะดำเนินการและทำการส่งต่อข้อมูลไปยังสถานฑูตอเมริกา ในกรุงเทพฯ จากนั้นผู้สมัครฯจะได้รับการแจ้งจากทางสถานฑูตอเมริกา สำหรับการรอผลการนัดวันสอบ สัมภาษณ์ท่าน เนื้อหาส่วนอื่นอาจจะมีเพิ่มเติมถ้าหากว่าท่านเคยขอรับดวงตราเข้า เมืองประเภทอื่นๆมาก่อนหรือเคยเป็นผู้มีประวัติทางอาชญากรรม ฯลฯ |
ขั้นตอนที่ 4: วีซ่าแต่งงาน (สถานฑูตอเมริกา) |
เมื่อ ท่านได้รับการสอบสัมภาษณ์ ณ สถานฑูตอเมริกาแล้ว และได้รับวีซ่า K-3 ท่านจะสามารถเดินทางเพื่อไปอยู่อาศัยกับสามี/ภรรยาของท่านได้ในประเทศสหรัฐ อเมริกา วีซ่าคู่สมรส K-3 เป็นวีซ่าประเภทสามารถ “ใช้ในการเข้าออกได้หลายครั้ง (Multiple Entry)” ท่านสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยใช้วีซ่าคู่สมรส K-3 รวมถึงยังสามารถขอได้รับสิทธิในการทำงานด้วยวีซ่าคู่สมรส K-3 ของท่านได้อีกด้วย เมื่ออยู่ในสหรัฐอเมริกาแล้วมันจะ เป็นการดีที่สุดที่จะสมัครขอทำการเปลี่ยน แปลง สถานภาพเพื่อให้แน่ใจว่าท่านจะกลายมาเป็นประชากรถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ( หรืออย่างน้อยก็กรองเอกสารเพื่อขอกลายมาเป็นประชากรถาวรตามกฎหมาย) ก่อนที่อายุของวีซ่าคู่หมั้น K-3 ของท่านจะหมดอายุลง |
สาเหตที่ทำให้ผู้สมัครไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่า K1-K3 |
|
เงื่อนไขบริการ
ขอคำปรึกษาฟรี แอดLine@ หรือ โทรสอบถามกับเราตอนนี้